วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2559

ลูกชุบ



อ้างอิง image : ttp://f.ptcdn.info/787/007/000/1375095377-reply28054-o.jpg


ส่วนผสม 
1. แป้งสาลีเอนกประสงค์  1 ถ้วย
2. แป้งท้าวยายม่อม  2 ช้อนชา
3. ไข่ไก่ (ใช้เฉพาะไข่แดง)  8  ฟอง วัตถุดิบ
4. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกนึ่งสุก 150 ก. (แช่น้ำ 1 คืน)
5. สีผสมอาหารสีแดง 1 ช้อนโต๊ะ
6. สีผสมอาหารสีเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
7. สีผสมอาหารสีส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 130 ก.
9. ผงวุ้น 25 ก.
10. น้ำเปล่า 1 ลิตร
11. กะทิ 250 มล.
12. กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
13. ใบของต้นแก้ว 1/2 ถ้วย
 * ส่วนผสมสำหรับ 40 ชิ้น

วิธีการทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. นำถั่วนิ่มสุก กะทิ น้ำตาลทราย ปั่นรวมกันจนละเอียด จากนั้นนำไปกวนในกระทะทองเหลืองด้วยไฟอ่อน จนส่วนผสมเริ่มแห้ง พักไว้ให้เย็น
2. ปั้นให้เป็นรูปทรงผลไม้ตามชอบ จากนั้นทาสีให้สวยงาม พักไว้ 10 นาทีเพื่อให้สีแห้ง
3. ผสมผงวุ้น น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน พักไว้ 5 นาที ให้ผงวุ้นดูดซึมน้ำให้เต็มที่ เปิดไฟแรงให้น้ำเดือด จากนั้นลดไฟลงอ่อนๆ
4. นำขนมลูกชุบที่ระบายสีแล้วลงชุบในน้ำวุ้นเคลือบให้ทั่วขนม พักไว้ 5 นาที จากนั้นชุบวุ้นใหม่อีกครั้ง (ชุบ 3 รอบ)
5. เมื่อขนมลูกชุบเคลือบวุ้นทั่วดีแล้ว ตกแต่งให้สวยงามด้วยใบของต้นแก้ว เป็นอันเสร็จ

วิดีทัศน์การทำลูกชุบ






อ้างอิง website : 
https://sites.google.com/site/tumkanom/page6

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

ขนมเม็ดขนุน




Cr.image : http://sv5.postjung.com/imgcache/data/658/658051-img-1360725253-1.jpg


ส่วนผสม (วัตถุดิบ)
1.ถั่วเขียวเลาะเปลือก 450 กรัม
2.น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว)
3.น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
4.น้ำกะทิ 400 กรัม
 5.น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
 6.ไข่เป็ด 5 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)

 วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเชฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้)
4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงเม็ดขนุน
5. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตาลและน้ำเปล่า นำไปเคี่ยวในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเชฟลอนก็ได้) จนเหนียวข้นเป็นยางมะตูม จึงปิดไฟ
6. ตอกไข่และเลือกเอาเฉพาะไข่แดงมารวมกัน เขี่ยพอให้ไข่แดงแตก จากนั้นจึงนำเม็ดขนุนที่ปั้นเตรียมไว้ใส่ลงไปแช่ในไข่แดงทีละเม็ด แล้วจึงนำไปใส่ในน้ำเชื่อม พยายามอย่าให้ติดกัน พอใส่ลงไปมากแล้วจึงนำกระทะไปตั้งบนไฟอ่อนๆจนสุกทั่งจึงตักออกมาพัก ทำซ้ำเช่นนี้จนเม็ดขนุนที่ปั้นไว้หมด

7. จัดเม็ดขนุนใส่จาน เสิร์ฟทานเป็นของว่างในวันสบายๆ


วีดิทัศน์การทำเม็ดขนุน






อ้างอิง webSite http://www.ezythaicooking.com/free_dessert_recipes/Thai_green_peanut_paste_th.html




ขนมเสน่ห์จันทร์




อ้างอิง image : http://www.centerwedding.com/news/1010/53/13

ส่วนผสม
1.แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
2.แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
3.ผงจันทน์เทศป่น 1/2 ช้อนชา
4.หัวกะทิ 4 ถ้วย
5.น้ำตาลทราย
 2 ถ้วย
6.ไข่ไก่ 4 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
7.น้ำตาลปี๊บสำหรับทำขั้วผลจันทน์
8.เทียนอบขนม

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และผงจันทน์เทศป่นเข้า ด้วยกัน
2. นำหัวกะทิและน้ำตาลทรายใส่หม้อ ตั้งบนไฟอ่อน คนจนน้ำตาลละลาย หมด จากนั้นจึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง และนำไปผสมกับแป้ง ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนี่ง
3. นำส่วนผสมที่ได้ ไปตั้งบนไฟอ่อน ค่อยๆกวนจนส่วนผสมข้น จึงยกลง
4. ใส่ไข่แดงทีละฟอง ลงไปในส่วนผสมแป้งน้ำตาลกะทิ คนให้เข้ากัน จากนั้นนำขึ้นไปตั้งบนไฟอ่อนอีกครั้ง กวนต่อจนส่วนผสมจับตัวเหนียว ให้พอปั้นได้ จึงปิดไฟ
5. นำส่วนผสมที่ได้ปั้นเป็นทรงกลม คล้ายผลจันทน์ และตกแต่งจุกด้วย น้ำตาลปี๊บเคี่ยว
6. นำขนมที่ทำเสร็จแล้วไปอบควันเทียน เสร็จแล้วสามารถนำไปทานเป็นของว่างได้ทันที หรือจะเก็บใส่โหลมิดชิดไว้ทานภายหลังก็ได้
หมายเหตุ : ขั้วผลจันทน์ (จุก) สีน้ำตาลทำได้โดยนำน้ำตาลปี๊บไปเคี่ยวจนข้น เสร็จแล้วจึงนำมาหยอด

วีดิทัศน์การทำขนมเสน่ห์จันทร์








ขนมถ้วยฟู



อ้างอิง image : http://www.chaowang.besaba.com/images/Foooo.jpg

ส่วนผสม
1.แป้งเค้ก 2+1/2 ถ้วย (หรือ 300 กรัม)
2.ผงฟู 1 ช้อนชา
3.ไข่ไก่ (อุณหภูมิห้อง) 3 ฟอง
4.น้ำตาลทราย 1+1/4 ถ้วย (หรือ 250 กรัม)
5.น้ำเปล่า (อุณหภูมิห้อง) 1 ถ้วย
6.สารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี (SP) 4 ช้อนชา
7.นมข้นจืด 3 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำหอมกลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา (หรือน้ำหอมกลิ่นนมแมว 2 หยด)
10.สีผสมอาหาร (ตามชอบ)

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1.ร่อนแป้งเค้ก กับผงฟูเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2.
ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย และน้ำลงในอ่างผสม จากนั้นป้ายสารเสริมคุณภาพบนหัวตีรูปตะกร้อ ตีผสมด้วยความเร็วสูง นานประมาณ 3-5 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟูเป็น 3 เท่า
ขลดความเร็วเครื่องตีลง ใช้ความเร็วต่ำ จากนั้นค่อย ๆ ตักแป้งใส่ลงไปตีผสมจนหมด ปาดข้างอ่าง ตีผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ค่อย ๆ เทนมข้นจืดลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว และน้ำหอมกลิ่นมะลิ ตีต่อประมาณ 30 วินาที ปิดเครื่อง คลุมอ่างผสมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด ๆ พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ส่วนผสมขึ้นฟู
3.ใส่น้ำลงในชุดนึ่ง นำขึ้นตั้งไฟแรงจนน้ำเดือดจัด
-เมื่อครบเวลา ใช้พายยางคนตะล่อมแป้งให้เข้ากันอีกครั้ง แบ่งแป้งผสมสีผสอาหารตามชอบ เตรียมไว้
4.วางถ้วยกระดาษ (ถ้วยจีบ) ลงในพิมพ์อะลูมิเนียม ตักส่วนผสมแป้งใส่ประมาณ 3/4 พิมพ์ จากนั้นวางเรียงในชุดนึ่ง (โดยวางถ้วยให้ระยะห่างกันประมาณ 2 ซม. เพื่อให้ความร้อนกระจายขึ้นมาอย่างทั่วถึง) จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรง นานประมาณ 15 นาที นำออกจากชุดนึ่ง แกะขนมออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ

 วีดิทัศน์การทำขนมถ้วยฟู




อ้างอิง website :
http://www.thaifoodcookbook.net/thaifoodrecipes_th/thaidessert/thaidessert_kanomtuayfoo

ขนมชั้น



อ้างอิง image : http://www.nibong.ac.th/kb/57/10monrudee/job5/I13075540-26.jpg 

ส่วนผสม
1. น้ำตาลทราย 2 1/2  ถ้วย
2.น้ำกะทิ  ถ้วย
3.แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
4.แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
5.แป้งท้าวยายม่อม 1 1/2  ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
6.น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
7.น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
8.ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)

วิธีการทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1.ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
2.นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้
3.ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง
4.แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิ คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
5.ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้าย ให้นึ่งประมาณ 7 นาที ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง) 
6.นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ


วีดิทัศน์การทำขนมชั้น







อ้างอิง website :

ขนมจ่ามงกุฎ



อ้างอิง image : https://sixgirl48.wordpress.com


ส่วนผสม
เม็ดแตง
1. เม็ดแตงโมแกะ
2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
3. น้ำ 1/4 ถ้วย
 ตัวมงกุฎ (ทองเอก)
4. แป้งสาลี บัวแดง 1/2 ถ้วย
5. ไข่ไก่ (แยกเอาไข่แดง + กะทิ 1/2 ถ้วย คนให้เข้ากัน) 6 ฟอง
6. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
7. กะทิ (กะทิกล่อง 3/4 ถ้วย + น้ำ 1 ถ้วย) 1 ถ้วย
ฐานมงกุฎ (กวน)
8. แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
9. ไข่ไก่ (แยกไข่แดง) 1 ฟอง
10. น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำเชื่อม (กาว) ถ้วยตะไล

วิธีทำขนมไทย  ทีละขั้นตอน
1. เม็ดแตง
        1.1 น้ำเชื่อม หม้อใส่น้ำกับน้ำตาล คนเล็กน้อย ตั้งไฟให้เดือดประมาณ 5 นาที (ไม่คน) ใส่ชาม (ที่เอามือจุ่มได้) พักไว้พออุ่น
        1.2 ติดเตาถ่าน 2-3 ก้อน หรือเตาแก๊สต้อง ใช้ไฟอ่อนสุด - กะทะทองใส่เม็ดแตง ตั้งไฟ ใช้มือกวาดไปมา คั่วเม็ดแตงให้สุก
ประมาณ 30 นาที (ถ้าใช้ไฟแรง เม็ดแตงจะพองแตก หรือไหม้ได้)
        1.3 ปลายนิ้วจุ่มในน้ำเชื่อมพอเคลือบนิ้ว (ถ้าน้ำเชื่อมชุ่มไปสะบัดออก เพราะจะทำให้เป็นการเคลือบน้ำตาลเมด็แตง)
กวาดไปมากับเม็ดแตงในกะทะ อีกมือจับกะทะประคองให้ตั้งเอียงไว้ คอยสังเกตดูถ้าเม็ดแตงแห้ง เอามือจุ่มน้ำเชื่อม กวาดเม็ดแตง
ถ้ากระทะร้อนเกินไปจนมือเราทนไม่ได้ กลับกะทะอีกด้าน (เปลี่ยนด้าน และเมื่อก้นกะทะเลอะมีเศษน้ำตาลเกาะ ใช้ผ้าชุ่มน้ำหมาดๆ
เช็ดให้แห้ง เช็ดให้สะอาดทั่วกระทะ เพราะก้นกระทะสะอาด กระทะจะลื่น ทำให้กวาดเม็ดแตงได้) แต่มือก็ยังกวาดไปมาต่อไป
ทำต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ใช้เวลากวาดเม็ดแตงจนขึ้นหนามใช้เวลาประมาณ 2 1/23 ชม. (ถ้านานเกินหนามอาจหักหมด)
เก็บเม็ดแตงใส่ถุงไว้ ส่วนน้ำเชื่อมเก็บไว้เพื่อใช้เป็นกาวในการประกอบขนม

2. ตัวมงกุฎ (ทองเอก)
        2.1 อ่างใส่แป้งสาลี น้ำตาล กะทิ1/2 ถ้วย (ค่อยๆ ใส่) ใช้พายยางคนให้เข้ากัน ให้น้ำตาลละลาย ใส่ไข่แดงที่ผสมในกะทิ 1/2 ถ้วย
คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าข้าวบางเทใส่กะทะทอง คนก่อนขึ้นตั้งไฟทุกครั้ง (ส่วนผสมนอนก้น) ใช้ไฟอ่อนที่สุด กวนช้าๆ เป็นวงกลม
พอส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น กวนแบบชักขึ้นลงไปมาช้าๆ (ไม่กระชาก เพราะจะทำให้แตกมัน)
        2.2 การกวนขนม ใช้มือแต่ข้างกะทะทองเพื่อตรวจดูอุณหภูมิ ถ้าร้อนเกินมือจับได้ ยกลงวางบนถาดที่มีผ้าเปียกน้ำ กวนขนมต่อไป
จนรู้สึกว่ากะทะเริ่มเย็นตัวลง ยกขึ้นตั้งไฟใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลากวนประมาณ 1 1/2ชม ดูแป้งข้นเหนียว ยกลงจากเตาพักไว้
(แป้งที่เหลือใช้จากการทำจ่ามงกุฎ นำไปอัดในพิมพ์ทองเอกได้ (แป้งเหมือนกัน)
    3. ฐานมงกุฎ - อ่างใส่แป้งสาลี (ไข่แดงที่คนผสมกับน้ำ) ค่อยๆ ใส่ทีละนิด ดูอย่าให้เหลวเกินไป (ถ้าเหลวเติมแป้งเพิ่ม)
นวดเคล้าพอเป็นก้อน คลึงบนไม้กระดานให้เป็นแผ่นหนา 0.1 ซม. ใช้พิมพ์กด วางใส่ในก้นถ้วยตะไล ใช้ไม้จิ้มฟันเจาะให้เป็นรู
นำเข้าอบ (350องศา) ดูให้เหลืองกรอบ
    4. การประกอบขนม - ฐาน (ถาด)ที่อบสุกแล้ว นำเม็ดแตงโมขนาดเท่าๆกัน (ที่กวาดหนามแล้ว) ติดรอบฐานด้วยน้ำเชื่อม
(6-7 เม็ด ถาดเล็ก 8-9เม็ด) ทิ้งให้แห้ง ตัวมงกุฎ (แป้งทองเอกที่กวนไว้) ปั้นเป็นก้อนกลม กะขนาดพอวางบนฐาน ใช้สันมีดคว้านบั้ง
(เหมือนสัญลักษณ์ดอกจันทร์) ทำให้เป็น 6 กลีบ ปั้นแป้งอีกส่วนเป็นวงกลมเล็กติดตรงกลางเป็นยอด (ถ้าไม่ติดใช้น้ำมันทาเล็กน้อย)
ใช้ปลายมีดเขี่ยทองคำเปลว ติดตรงกลางส่วนยอดอีกที วางใส่จาน นำไปอบควันเทียนในรังถึง

วีดิทัศน์การทำจ่ามงกุฏ







ขนมฝอยทอง

อ้างอิง image : http://www.pim.in.th/thai-dessert/356-gold-egg-yolks-thread


ส่วนผสม
1.ไข่แดงเป็ด
2.ไข่แดงไก่
3.น้ำตาลทราย
4.ใบเตย
5.กลิ่นดอกมะลิ
6.เทียนอบขนม

วิธีทำขนมไทยทีละขั้นตอน
1. น้ำตาลทราย น้ำ ตั้งไฟพอเดือดน้ำตาลละลาย
2. ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟเคี่ยวต่อ
3. ให้น้ำเชื่อมมีลักษณะไม่ข้นหรือใสเกินไป เหมาะสำหรับโรยฝอยทอง
4. ตอกไข่ แยกไข่ขาวออกใช้แต่ไข่แดง และเก็บน้ำไข่ขาวที่ใสไม่เป็นลิ่ม เรียกน้ำค้างไข่
5. นำไข่แดงใส่ผ้าขาวบางรีดเยื่อไข่ออก ผสมไข่แดงกับน้ำค้างไข่ตามส่วน คนให้เข้ากัน
6. เตรียมกระทะทองใส่น้ำเชื่อมเดือด ๆ ไว้ ทำกรวยด้วยใบตอง หรือใช้กรวยโลหะใส่

วีดิทัศน์การทำฝอยทอง






อ้างอิง website :
 http://www.oknation.net/blog





ขนมทองหยอด


อ้างอิง image : http://www.chaiwbi.com/2556student/m5/d5401/wbi/565403/images/4.jpg 


ส่วนผสม
1.ไข่เป็ด 10 ฟอง
2.แป้งทองหยอด 1/4 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 7 ถ้วยตวง
4.น้ำลอยดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือดพอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นไว้สำหรับลอยทองหยอด ที่เหลือตั้งไฟต่อไปให้น้ำเชื่อมเหนียว
2. แยกไข่แดง ไข่ขาว
3. ตีไข่แดงให้ขึ้น ค่อยๆ ใส่แป้งทองหยอดแล้วคนให้เข้ากัน
4. หยอดไข่ที่ตีแล้วลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นตัวกำหนด ต้องการลูกเล็กหรือใหญ่ตามชอบ นิ้วหัวแม่มือจะเป็นนิ้วที่ช่วยรูดแป้งลงที่ปลายนิ้ว แล้วจึงสะบัดไข่ลงในน้ำเชื่อม
5. เมื่อทองหยอดสุกลอยขึ้น ตักใส่ในน้ำเชื่อมสำหรับลอย

วีดิทัศน์การทำทองหยอด





อ้างอิง website :


ขนมทองหยิบ


อ้างอิง image : http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201311/18/67175685f.jpg

ส่วนผสม
1.ไข่เป็ด 10 ฟอง
2.น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
3.น้ำลอยดอกไม้ 2 ถ้วยตวง

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1.ผสมน้ำลอยดอกไม้ น้ำตาลทราย เคี่ยวให้เป็น้ำเชื่อม สำหรับหยอด
2.แยกไข่ขาวและไข่แดงใช้แต่ใข่แดงตีให้ขึ้นฟูจนไข่เปลี่ยนเป็นสีนวล
3.ตักไข่หยอดใส่ในน้ำเชื่อม ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ไข่เป็นแผ่น หยอดให้เต็มกระทะ รอให้ไข่สุก ตักแผ่นไข่ที่หยอดไว้ใส่ถาดใช้มือจับเป็นจีบ ตามต้องการ แล้วหยิบใส่ถ้วยตะไล รอให้เย็นแล้วจึงแคะออกจากถ้วยตะไล
หมายเหตุ :
เวลาตักไข่หยอดลงในน้ำเชื่อม ต้องให้น้ำเชื่อมนิ่งเพื่อไข่ที่หยอดจะได้ไม่แตก ถ้าใช้ไข่ไก่ผสมด้วยเนื้อขนมจะนุ่มขึ้นแต่สีที่ได้จะอ่อนลง

วีดิทัศน์การทำทองหยิบ







อ้างอิง website :

http://www.oknation.net/blog

ขนมทองเอก


อ้างอิง image : https://sixgirl48.wordpress.com

ส่วนผสม 
1. แป้งสาลีเอนกประสงค์  1 ถ้วย
2. แป้งท้าวยายม่อม  2 ช้อนชา
3. ไข่ไก่ (ใช้เฉพาะไข่แดง)  8  ฟอง
4. กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม)  1 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย   1  ถ้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม : พิมพ์ไม้สำหรับทำขนมทองเอก, ทองคำเปลว

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. ใส่กะทิกับน้ำตาลลงในกระทะทอง ตั้งไฟกลาง เคี่ยวนานประมาณ 10-15 นาที จนมีลักษณะข้นขาว ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น
2. ร่อนแป้งสาลีและแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง นำกะทิกับน้ำตาลาที่เคี่ยวไว้ (ส่วนผสมข้อ 1) ใส่ไข่แดง และแป้งที่ร่อนไว้ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. นำขึ้นกวนไฟอ่อน ๆ จนแป้งรวมตัวเป็นก้อน กวนจนแป้งเนียนใส ยกลง คลุมด้วยผ้าขาวบางทิ้งไว้ให้เย็น
4. นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมเท่า ๆ กัน อัดลงในพิมพ์รูปต่าง ๆ ตามต้องการ เคาะออก นำมาติดทองคำเปลว

วีดิทัศน์การทำทองเอก






อ้างอิง website :

 https://muaynika.wordpress.com